ชื่อผู้ร่วมวิจัย
-นางสาว ปุญญณุช สังข์แก้ว Punyanuch Sangkaew 095-230-6352 อีเมล auniging.bb@gmail.com ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายการเรียนรู้ ศิลป์-ภาษาญี่ปุ่น
-นาย กฤษฎี อติกากร Krit Atikankon 0842376905 อีเมล takrit32@gmail.com ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายการเรียนรู้ ศิลป์-ภาษาญี่ปุ่น
-นางสาว มนัสณันท์ นันทประดิษฐ์ Manussanun Nuntapradid 0909136798 อีเมล n.preawa2551@gmail.com ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายการเรียนรู้ ศิลป์-ภาษาญี่ปุ่น
-นาย นราวิชญ์ แสนสัมฤทธิ์ Narawit sansamrrit 0611197455 อีเมล Narawit.win.w@gmail.com ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายการเรียนรู้ ศิลป์-ภาษาญี่ปุ่น
-นางสาว เบญญาภา จวงจันทร์ Benyapa Jungjan 0909902250 อีเมล Bamfon2883@gmail.com ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายการเรียนรู้ ศิลป์-ภาษาญี่ปุ่น
-นางสาว ชลลิตา นากประดิษฐ์ Chonlisa Nakprasit 083-530-8568 อีเมล bitan14251@gmail.com ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายการเรียนรู้ ศิลป์-ภาษาญี่ปุ่น
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสำคัญของความเท่าเทียมทางเพศ และทราบความคิดเห็นของคนในสังคมต่อความเท่าเทียมทางเพศ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการรับรู้ถึงสิทธิสตรีและอิทธิพลหลากหลาย รวมถึงแนวทางการรณรงค์ในสังคมไทย กลุ่มเป้าหมายคือเด็กเยาวชนและผู้คนทั่วไป
การเก็บข้อมูลจะทำการสัมภาษณ์และการวิจัยพบว่าผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่เห็นว่าความเท่าเทียมทางเพศเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาสังคม แต่ยังมีทัศนคติแบบเหมารวม (stereotype) และการเลือกปฏิบัติปรากฏอยู่ การสร้างความเข้าใจผ่านการศึกษาและสื่อสาธารณะถือเป็นวิธีการสำคัญในการลดอคติและส่งเสริมเส้นทางเป็นธรรมมากขึ้น
วิธีการดำเนินการ สัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายในบริเวณบางกะปิทั้งชายและหญิงจำนวน 2-3 กลุ่ม ร่วมกับการศึกษาที่ตอบแบบสอบถามความคิดและมุมมองที่มีต่อความเท่าเทียมทางเพศทั้งในอดีตและปัจจุบัน
ผลการศึกษา พบว่าส่วนใหญ่ของการณ์สัมภาษณ์กลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 40-60 ปี) และกลุ่มวัยรุ่น/นักศึกษา (อายุ 18-25 ปี) พบว่ามีความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าความเพศสัมพันธ์อยู่ในสภาพที่อ่อนไหวต่อความเท่าเทียมทางเพศในอดีตซึ่งมีข้อจำกัดมาก ผู้หญิงถูกจำกัดเพศ บทบาทให้อยู่กับบ้าน ดูแลครอบครัว ขณะที่ผู้ชายมีบทบาทในการทำงานนอกบ้านและจัดการที่ดินในครอบครัว การเข้าถึงการศึกษาและอาชีพบางอย่างของผู้หญิงยังมีข้อจำกัด อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ผู้ใหญ่หลายคน เห็นพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้น ผู้หญิงมีสิทธิในการศึกษา การทำงาน และการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น แม้ยังมีข้อจำกัดในบางประเด็นที่ลึกไปสังคม การเปรียบเทียบเพศกับปัจจุบัน
จากการรวบรวมข้อมูลพบว่าอดีตความเท่าเทียมทางเพศถูกจำกัดด้วยโครงสร้างสังคมและวัฒนธรรม แต่ในปัจจุบัน สังคมเริ่มมีแนวโน้มก้าวหน้ามากขึ้น มีสิทธิและโอกาสเท่าเทียมผู้หญิงและเพศทางเลือกได้รับการยอมรับมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาความไม่เท่าเทียมยังปรากฏ เช่น ช่องว่างรายได้ การเลือกปฏิบัติ และทัศนคติที่ยังติดยึดกับบทบาทเพศแบบดั้งเดิม การสัมภาษณ์ที่สอดส่องให้เห็นพัฒนาการของแนวคิดเรื่องความเท่าเทียมทางเพศที่ลึกซึ้งจนถึงปัจจุบันที่ตอบ
โดยปัจจุบันนั้นจะมีความก้าวหน้าในเชิงสิทธิและโอกาส แต่สังคมก็ต้องผลักดันการสร้างความเข้าใจและลดอคติ เพื่อให้ความเท่าเทียมทางเพศเกิดขึ้นอย่างแท้จริงในทุกมิติแก่ส่วนใหญ่ผู้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับความสำคัญของความเท่าเทียมทางเพศทั้งในอดีตและในปัจจุบัน แต่การเลือกปฏิบัติที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องมุ่งเน้นงานวิจัยของ UN Women ที่ระบุว่าการปลูกฝังค่านิยมและการศึกษาเป็นหัวใจสำคัญในการลดอคติ ปัญหาดังกล่าวต้องแก้ไขโดยการสร้างนโยบายที่ครอบคลุมและให้โอกาสทุกเพศเท่าเทียม
ข้อเสนอแนะ
-จัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนที่ส่งเสริมความเข้าใจเรื่องเพศ
-ผลักดันสื่อรณรงค์ให้คนในสังคมเกิดค่านิยม
-สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับกลุ่มเพศหลากหลาย
-เสนอให้องค์กรรัฐและเอกชนร่วมมือสร้างมาตรการต่อต้านการเลือกปฏิบัติ
คำสำคัญ: ความเท่าเทียมทางเพศ (Gender Equality) สิทธิสตรี (Women’s Rights) ความหลากหลายทางเพศ (Gender Diversity หรือ Sexual Diversity) การเลือกปฏิบัติ – Discrimination อคติ / แบบเหมารวม – Bias / Stereotype สิทธิและโอกาส – Rights and Opportunities การศึกษา – Education
บทนำ
ความเท่าเทียมทางเพศเป็นประเด็นที่มีความสำคัญในระดับโลก โดยถูกกำหนดไว้ในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายที่ 5 ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งมุ่งเน้นให้ทุกคนมีสิทธิและโอกาสเท่าเทียมกันไม่ว่าจะแตกต่างกันทางเพศ เชื้อชาติ หรือสถานะทางสังคม อย่างไรก็ตามในสังคมไทยยังคงปรากฏปัญหาการเลือกปฏิบัติ การแบ่งแยกบทบาททางเพศ และข้อจำกัดที่ไม่เป็นธรรม
การวิจัยครั้งนี้จึงมีความสำคัญในการนำเสนอข้อมูล และแนวทางแก้ไขในสังคมไทย ความไม่เท่าเทียมทางเพศเป็นปัญหาที่ดำรงอยู่ในยาวนาน โดยเฉพาะในอดีตที่ผู้หญิงถูกจำกัดบทบาทให้อยู่ในครอบครัว ขาดโอกาสด้านการศึกษาและอาชีพบางสาขา ขณะที่ผู้ชายมีบทบาทในการตัดสินใจหลักและจัดการทำงานนอกบ้าน
แม้ปัจจุบันจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น ตั้งแต่บทบาทการเลือกปฏิบัติ อคติทางเพศ และความเคลื่อนไหวในโอกาสและรายได้ การศึกษาที่มีความสำคัญอย่างต่อเนื่องช่วยให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของทัศนคติคนไทยต่อสิทธิปัจจุบัน ที่กำลังจะถึงรากฐานของปัญหาและสามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์เพื่อกำหนดนโยบายที่ส่งเสริมความเท่าเทียม ผู้จัดตั้งได้ประโยชน์ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา นักวิชาการ ผู้กำหนดนโยบาย และประชาชนทั่วไปที่ต้องการตระหนักถึงสิทธิและโอกาสที่เท่าเทียม สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนคือการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้อ่อนแอทางบทบาทในระยะยาว รวมถึงวิธีการลดอคติและการเลือกปฏิบัติที่ยังคงฝังรากลึกในสังคม จึงจำเป็นต้องศึกษาเพื่อหาแนวคิดและวิธีการที่เหมาะสมในการพัฒนา
ขั้นตอนการศึกษาได้แก่ข้อมูลการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ ผ่านการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างจากหลายช่วงวัย เพื่อสะท้อนมุมมองที่อดีตและปัจจุบัน รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบเพื่อหาทิศทางการพัฒนา
งานวิจัยนี้จะเป็นกรณีศึกษาในมิติทางสังคมและวัฒนธรรมของความเท่าเทียมทางเพศในประเทศไทย ไม่ครอบคลุมเศรษฐกิจระดับมหภาคหรือเปรียบเทียบกับต่างประเทศโดยละเอียด ข้อจำกัดคือทัศนคติของผู้ให้ที่อาจเป็นเพียงแค่คนต่างชนชั้น ช่วงวัยและประสบการณ์ รวมถึงข้อจำกัดด้านเวลาและกลุ่มตัวอย่างที่ไม่สามารถครอบคลุมทุกพื้นที่ในสังคมไทยได้ทั้งหมด
การวิจัยนี้มีประโยชน์พื้นฐานของข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์จากการเก็บข้อมูลและการสัมภาษณ์ โดยมุ่งเน้นการอธิบายและเปรียบเทียบพัฒนาการของความเท่าเทียมทางเพศในสังคมไทยอย่างรอบด้าน เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้จริง
เอกสารอ้างอิง
-UN Women. (2020). Gender Equality and Sustainable Development.
-กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว. (2564). รายงานความเท่าเทียมทางเพศในประเทศไทย.
ผลงานของ SDGs Young Creator จากทีม Invictus